ถึงแม้ว่าการลงทุนในหุ้นจะได้ผลตอบแทนที่ดีจากกำไรการขายหุ้น หรือเงินปันผลของหุ้น แต่ก็ยังมีความเสียงที่จะขาดทุนได้เช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงก็ย่อมได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อชดเชยความเสี่ยงนั้น ในขณะเดียวกัน หุ้นตัวที่มีความเสี่ยงต่ำก็จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า ขาดทุนน้อยกว่า ซึ่งความเสี่ยงและผลตอบแทนในการลงทุนนั้นเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้
-
ผลประกอบการบริษัท ภาวะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และภาวะเศรษฐกิจ
เป็นตัวที่กำหนดทิศทางของผลตอบแทนว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ถ้าผลประกอบการของบริษัทนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง มีแนวโน้มที่จะขาดทุน ธุรกิจประสบปัญหา หรือภาวะเศรษฐกิจซบเซา ก็อาจจะทำให้เกิดการขาดทุนได้
-
ความไม่แน่นอนของอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
ผู้ลงทุนอาจขายหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ หรือบริษัทอาจจ่ายเงินปันผลในระดับต่ำหรือไม่จ่ายเงินปันผลเลย ซึ่งการที่ผู้ลงทุนได้รับอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง มีสาเหตุมาจากการที่กระแสเงินสดสุทธิของบริษัทผู้ออกหุ้นมีความไม่แน่นอน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นด้วย
-
ความเสี่ยงทางการเงิน
เกิดขึ้นจากการที่กิจการสร้างภาระผูกพันทางการเงินไว้ เช่น การก่อหนี้ ถ้ามีหนี้มากก็ต้องทำกำไรตามเป้าที่วางไว้เพื่อนำไปชำระดอกเบี้ย ซึ่งถ้ากำไรไม่สามารถทะลุเป้า ก็จะทำให้บริษัทนั้นมีความเสี่ยง ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน
-
ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง
เนื่องจากไม่อาจเปลี่ยนหุ้นที่ลงทุนเป็นเงินสดได้ในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ขาดทุน เพราะหุ้นนั้นมีการหมุนเวียนเปลี่ยนมือในตลาดรองน้อย เกิดความยากในการซื้อขาย หรืออาจขายได้ในราคาที่ไม่เป็นที่ต้องการ
การบริหารความเสี่ยงในการลงทุนสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ศึกษาข้อมูลของบริษัทหรือธุรกิจโดยละเอียดก่อนเริ่มลงทุน กำหนดเป้าหมายที่ตัวเรายอมรับได้ว่าจะได้กำไรหรือเสี่ยงขาดทุนประมาณไหน หรือการติดตามข่าวสารธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะรับมือให้ทันกับผลกระทบที่ตามมา
โดยสรุปแล้วการลงทุนในหุ้นนั้นย่อมมีความเสี่ยง แต่ถ้าศึกษา เตรียมข้อมูลล่วงหน้าก่อนการลงทุนไว้เป็นอย่างดี ก็อาจจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระยะยาว
风险提示:本文所述仅代表作者个人观点,不代表 Followme 的官方立场。Followme 不对内容的准确性、完整性或可靠性作出任何保证,对于基于该内容所采取的任何行为,不承担任何责任,除非另有书面明确说明。
加载失败()